ลิเวอร์พูล กลับมาสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมในศึกยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก ด้วยการบุกไปชนะ สปาร์ต้า ปราก อย่างขาดลอยด้วยสกอร์ 5-1 การเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นบางตำแหน่งโดยการนำ ดาร์วิน นูนเญซ ลงเป็นตัวจริงและมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กลับมาเป็นสำรอง ได้แสดงให้เห็นถึงความลึกของทีมและความยืดหยุ่นในแท็คติก การได้จุดโทษเร็วและการขยับหนีเป็น 2-0 จากการเล่นโต้กลับได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ลิเวอร์พูลสามารถควบคุมเกมและทิศทางของการแข่งขันได้ตั้งแต่ต้นเกม
แม้ว่าสปาร์ต้า ปราก จะมีช่วงเวลาที่พยายามตีไข่แตกและกลับมาอยู่ในเกมได้สำเร็จ ติดตามตารางพรีเมียร์ลีก ตารางพรีเมียร์ลีก แต่ลิเวอร์พูลก็สามารถขยายความได้เปรียบและรักษาความนำของตนได้อย่างแน่นอน การเปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยการส่ง เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ลงมาช่วยเสริมเกมรับ และการได้ประตูขยับห่างเป็น 4-1 และ 5-1 ในช่วงท้ายเกม ยืนยันถึงการเตรียมตัวที่ดีและความแข็งแกร่งของทีมในการเผชิญกับความท้าทาย
ผลลัพธ์จากเกมนี้ไม่เพียงแต่ให้โอกาสที่ดีแก่ลิเวอร์พูลในการผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศยูโรปา ลีก แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงคู่แข่งว่า “หงส์แดง” ยังคงเป็นทีมที่มีศักยภาพในการแข่งขันสูงสุด และพร้อมที่จะท้าทายทุกๆ คู่ต่อสู้ การเตรียมตัวสำหรับเกมบิ๊กแมตช์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในสุดสัปดาห์นี้จึงมีความหมายอย่างยิ่ง โดยการชนะเกมนี้ได้เป็นการยืนยันถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นของลิเวอร์พูลในการต่อสู้เพื่อความสำเร็จในทุกรายการที่พวกเขาเข้าร่วมแข่งขัน